เมื่อวันที่ 25
กุมภาพันธ์ 2562 ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา
มอบหมายให้ผมไปร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
การประชุมครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่ประชุมจากศาลากลางจังหวัดมาประชุมที่โรงเรียนอนุบาลเบญจลักษ์
มีวาระเพื่อทราบ มี
3 เรื่อง คือ 1) การประกาศรายชื่อสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 50
โรงเรียน ซึ่งประกาศโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
ลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ 2)
การดำเนินการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษของคณะอนุกรรมการแต่ละฝ่าย
ได้แก่ ฝ่ายเลขานุการ ฝ่ายพัฒนานวัตกรรม ฝ่ายสร้างการรับรู้ 3) ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายการศึกษา
ที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วม อาทิ มูลนิธิสยามกัมมาจล TDRI
สถาบันอาศรมศิลป์ โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ส่วนวาระเพื่อพิจารณา
มี 6 เรื่อง ได้แก่ 1) การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการคณะต่างๆ ได้แก่ คณะที่ปรึกษา,
ภาคีเครือข่ายการเรียนรู้จังหวัดศรีสะเกษ,
คณะกรรมการแกนนำก่อตั้งภาคีเครือข่ายการเรียนรู้จังหวัดศรีสะเกษ,
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนานวัตกรรม, คณะอนุกรรมการวิจัยและถอดบทเรียน,
คณะอนุกรรมการเสริมสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย,
คณะอนุกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์ 2) การแต่งตั้ง/มอบหมายศึกษานิเทศก์ปฏิบัติหน้าที่นิเทศการพัฒนาแต่ละนวัตกรรม
3)
การประชุมสัมมนาศึกษานิเทศก์เพื่อขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
4) ปกเอกสารการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
5) ข้อคิดเห็นในการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ และ 6)
การกำหนดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษครั้งต่อไป
สิ่งที่ได้สังเกตเห็นและเรียนรู้จากการประชุมครั้งนี้
ที่นอกเหนือจากการได้เห็นความเข้มแข็ง ความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ผู้อำนวยการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ หรือ core team พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาศรีสะเกษ
ดังนี้
1. ผู้ว่าฯ
เอาจริง-ใส่ใจ-ให้ความสำคัญ งานด้านการศึกษาและพื้นที่นวัตกรรมในระดับมากที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ (นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี)
ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
ได้ยืนยันความมุ่งมั่นตั้งใจว่า
1) งานการศึกษาต้องมาเอง งานประชุมด้านการศึกษาเป็น 1 ใน 3 งานสำคัญ
ที่ท่านจะต้องเข้าประชุมด้วยตนเอง ซึ่งงานด้านการศึกษา ได้แก่
การประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
และการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
2) ลงพื้นที่ต้องมีเวลาเยี่ยมชมงาน การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาครั้งต่อไป
หากสัญจรไปจัด ณ สถานศึกษานำร่อง จะต้องจัดเวลาช่วงการประชุม อย่างน้อยครึ่งวัน
เพื่อให้คณะกรรมการได้มีโอกาสลงไปเรียนรู้ ดูการจัดการเรียนการสอน
เยี่ยมชมนวัตกรรมที่โดดเด่นของสถานศึกษานั้นๆ
3) สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน สร้างความมั่นใจให้ผู้บริหารสถานศึกษานำร่องว่า
หากทำด้วยหัวใจและได้ผลดีบรรลุวัตถุประสงค์ หากขัดสนทรัพยากร
ท่านจะไม่ปล่อยให้ผู้บริหารสถานศึกษาสู้โดยลำพัง
ท่านจะเชื่อมประสานและแสวงหาปัจจัยเกื้อหนุนเหล่านั้นให้ ดังนั้น
หากทำด้วยใจ-ได้ผลดี-จะมีผู้เล็งเห็นและให้การสนับสนุน ตามมาเอง
สำหรับในปีงบประมาณ 2563 ผู้ว่าฯ
ได้เตรียมวงเงินงบประมาณเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
จำนวน 20 ล้านบาท
4) พื้นที่นวัตกรรม ทำแล้วต้องสำเร็จ
ห้ามล้มเหลว! เน้นย้ำว่า
การดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษจะปล่อยให้ล้มเหลวไม่ได้
ผู้เกี่ยวข้องจะต้องพยายามและร่วมมือรวมพลังทำให้ประสบผลสำเร็จให้จงได้
โดยเริ่มต้นจากนวัตกรรมการศึกษาที่เป็นต้นทุนเดิมที่มี
และควรจัดทำแผนปฏิบัติการและปฏิทินการขับเคลื่อนงานให้ชัดเจน
2.
ศึกษาธิการจังหวัด ร้อยรัด-เชื่อมโยง-บูรณาการ-งานสร้างคน ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ (นางวัชรกาญจน์ คงพูล)
ศึกษาธิการคนใหม่ของศรีสะเกษ
แต่เป็นผู้นำที่คร่ำหวอดอยู่วงการการศึกษาในพื้นที่ศรีสะเกษ
เมื่อกลับมาเป็นผู้นำระดับสูงในด้านการศึกษาของพื้นที่
มีความมุ่งหวังตั้งใจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงคุณภาพเด็กและเยาวชนศรีสะเกษ พร้อมร่วมทำงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
และต้องการหนุนให้ศึกษานิเทศก์ได้ใช้การวิจัยเป็นเครื่องมือในการพัฒนาวิชาชีพของตนเองควบคู่กับงานการนิเทศพัฒนาครู
3. ธนาคารไทยพาณิชย์และมูลนิธิสยามกัมมาจล...เทหมดหน้าตัก
หนุนพื้นที่นวัตกรรมศรีสะเกษ ในช่วง 1 ปี
ของการทำงานกับพื้นที่ของทีมธนาคารไทยพาณิชย์และมูลนิธิสยามกัมมาจล เพื่อการเตรียมการและสร้างกลไกการมีส่วนร่วมพัฒนาของทุกภาคส่วนในพื้นที่
ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ไม่มีใครทราบว่า ทั้ง 2 ภาคีนี้ว่าจะสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่อย่างไรหรือจะสนับสนุนงบประมาณเท่าใด ได้ทราบจุดเน้นของภาคีว่า จะไม่ทำงานโดยใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่เน้นความตั้งใจจริงของผู้เกี่ยวข้อง
และต้องเห็นถึงความพร้อมที่จะลุกขึ้นมา “เอาจริง” และร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงของทุกฝ่ายให้ได้ก่อน
...ถึงวันนี้ทีมมีความมั่นใจว่าผู้นำในพื้นที่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ภาครัฐ
ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในพื้นที่พร้อมขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาร่วมกันแล้ว
ในการประชุมวันนี้คุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจลและกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
ได้แจ้งว่า ธนาคารไทยพาณิชย์และมูลนิธิสยามกัมมาจลให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาเป็นอย่างมาก
จึงเตรียมงบประมาณสนับสนุนโปรแกรมการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษา รวม 85 ล้านบาท
(ธนาคาร 45 ล้านบาท และมูลนิธิ 40 ล้านบาท) ในกรอบระยะเวลา 5 ปี เป็นการหนุนเชิงกระบวนการของการพัฒนา
เช่น การประสานให้ mentor แต่ละนวัตกรรมลงไป coaching & mentoring
ณ สถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนแหล่งเรียนรู้
การขับเคลื่อนการดำเนินงานในภาพรวม หรือการวิจัย เป็นต้น แต่งบประมาณนี้ไม่ได้ใช้เพื่อสนับสนุน/จัดสรรลงไปที่โรงเรียนโดยตรง
4.
นวัตกรรมมอนเตสซอรี่ ต้องดูที่อนุบาลเบญจลักษ์ โรงเรียนอนุบาลเบญจลักษ์
สถานที่จัดประชุมครั้งนี้ มีความโดดเด่นในเรื่องมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ Montessori
เพราะมีครูที่ผ่านการอบรมพัฒนาจาก Association
Montessori Internationale (AMI) ถึง 2 คน และมีผู้นำที่เข้มแข็งอย่าง ผอ.บุญร่วม วิชาชัย ผอ.รร.อนุบาลเบญจลักษ์ ทำให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนรู้ในระดับปฐมวัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและชุมชน
จนมีนักเรียนระดับปฐมวัยเพิ่มขึ้นจากเดิม 11 คน เป็น 106 คน
มีครูปฐมวัยในพื้นที่ใกล้เคียงมาเรียนรู้ดูงานหลายคณะ
รวมทั้งโรงเรียนยังได้รับการสนับสนุนจาก สพฐ. ให้ขยายการจัดการเรียนรู้ Montessori
ในระดับชั้นประถมศึกษาด้วย
Written by: พิทักษ์ โสตถยาคม
Photo credit: ณัฐธนวรรธน์ บุดดา