วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีลงนาม MOU ของ 34 ภาคีร่วมพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ... ผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ร่วมให้การต้อนรับและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ


ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมายให้ ดร.อัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าร่วมต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และร่วมพิธีลงนาม MOU ของภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การศึกษาและพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
Clip VDO รายงานความก้าวหน้ายุทธศาสตร์การศึกษาและพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง


Clip VDO พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน



 


ซึ่งข่าวทำเนียบรัฐบาล จัดทำโดยกลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 จากเว็บไซต์รัฐบาลไทย เข้าถึงได้ที่ 
http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/19002 ได้เผยแพร่ข่าว "นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง" ดังนี้ 
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จ.ระยอง ย้ำผลิตคนให้สอดคล้องกับความต้องการ-การพัฒนาประเทศไทย ร่วมกันขับเคลื่อน-ใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม ดิจิทัล ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
วันนี้ (27 ก.พ.62) เวลา 12.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางมายัง ณ หอประชุมธงชัย ชิวปรีชา โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง จำนวนกว่า 30 องค์กร เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง เพื่อให้จังหวัดระยองเป็นต้นแบบในการปฏิรูปการศึกษา ที่มุ่งจัดการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัยและทุกระดับที่ตอบโจทย์ ระยอง เท่าเทียม ทั่วถึง เท่าทัน สมดุล ร่วมสร้างระยองให้เป็นเมืองน่าอยู่ และมีกรอบความร่วมมือในประเด็นสำคัญ คือ 1) ให้ความร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษาเรียนรู้ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 2) ให้ความร่วมมือในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และ 3) ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษาต้นแบบ โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คณะผู้บริหารโรงเรียนกำเนิดวิทย์ บริษัท กลุ่ม ปตท. ภาคีทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ครู อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานและให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะอย่างอบอุ่น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับชมการแสดงต้อนรับชุด “KVIS Percussion” โดยนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ พร้อมรับฟังรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยองว่า คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดระยอง ได้ดำเนินการจัดทำและประกาศใช้ยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดระยอง เป็นทิศทางในการจัดการศึกษาและการพัฒนากำลังคนในทุกระดับ ทุกประเภท ทุกช่วงวัย อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง เท่าทัน และสมดุล ร่วมสร้างระยองให้เป็นเมืองน่าอยู่ และเป็นต้นแบบในการผลิต และพัฒนากำลังคนสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ด้วยยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ 1. การสร้างกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ  2. จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการศึกษาจังหวัดระยอง 3. สร้างแพลทฟอร์มทางการศึกษาใหม่  4. ปรับกระบวนทัศน์ทางการศึกษาของคนในจังหวัดระยอง 5. สร้างโรงเรียน/ห้องเรียน/บุคคลต้นแบบ การจัดการศึกษาจังหวัดระยอง 6. พัฒนาหลักสูตร RAYONG MARCO แหล่งเรียนรู้  และศูนย์สร้างสรรค์ปัญญา

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรีได้รับชมวีดิทัศน์เกี่ยวกับโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง และเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง พร้อมกล่าวแสดงความรู้สึกดีใจที่มาเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือในวันนี้ ที่จะร่วมมือกันปฏิรูปการศึกษา ซึ่งจังหวัดระยองเป็นจังหวัดนำร่องในขณะนี้ และขอให้ขยายการดำเนินการไปจังหวัดอื่นด้วย วันนี้จึงถือเป็นความร่วมมือในการทำ MOU แต่ต้องไม่ลืมที่จะดำเนินการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมให้ได้ ทั้งนี้ การปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่รัฐบาลดำเนินการฝ่ายเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนผ่านกลไกประชารัฐ ที่ประกอบด้วยภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชนเข้าร่วมกันดำเนินการด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมมือกันในวันนี้ และกล่าวย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องมี Road map ที่ชัดเจน ซึ่งในส่วนของกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาของจังหวัดระยองก็สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา โดยสิ่งสำคัญคือขอให้ทุกคนคำนึงและร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางให้ได้ รวมทั้งเพื่อให้สามารถดูแลผู้มีรายได้น้อยได้มากขึ้น ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ค้าขายปลีกและอาชีพรับจ้างต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมย้ำว่าการศึกษาทุกระดับตั้งแต่เด็กเล็กขึ้นไปต้องมีคุณภาพ ครูต้องมีการพัฒนา ขณะที่เด็กต้องมีแรงกระตุ้น มีแรงจูงใจ และมีความสนใจศึกษาเล่าเรียน โดยครูผู้สอนและนักเรียนต้องมีการกำหนดเป้าหมายการเรียนที่ชัดเจนว่าเรียนแล้วจะได้อะไร เช่นเดียวกับที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ดำเนินการ พร้อมให้ผลิตคนให้สอดคล้องกับความต้องการและการพัฒนาประเทศไทย รวมทั้งต้องร่วมกันขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม ดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อนำมาพัฒนาประเทศต่อไป

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมมือกันตรงนี้ และฝากให้ทุกคนช่วยกันหาแนวทางให้นักเรียนที่อยู่ในท้องถิ่นได้สามารถเข้ามาเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ โดยขอให้ทุกคนร่วมมือกันทำให้สำเร็จ และร่วมกันสืบสานประเพณีอัตลักษณ์ของประเทศให้คงอยู่ย่างยั่งยืนตลอดไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยเยี่ยมชมการเรียนการสอน และผลงานของโรงเรียน ได้แก่ 1) ห้องปฏิบัติการงานช่างซึ่งเป็นห้องสำหรับเรียนรู้พื้นฐานการใช้งานเครื่องจักรต่าง ๆ สำหรับขึ้นรูปงาน 2) ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์และไมโครคอนโทรลเลอร์ซึ่งเป็นห้องการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานและการเขียนโปรแกรมควบคุมไมโครคอนโทรลเลอร์ พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ก่อนเดินทางไปยังจุดพิธีเปิดหน้าดินก่อสร้าง (Ground Breaking Ceremony) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ตำป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยองต่อไป

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สพฐ. ประชุมเตรียมการจัดตั้งสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ตามร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ...


ด้วย ร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... ในมาตรา 18 ให้จัดตั้งสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ใน สพฐ. ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานวิชาการและงานธุรการของคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการนโยบายนี้ มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ

สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีหน้าที่ ดังนี้
1. เป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการ ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการนโยบาย
2. จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศในการดำเนินการส่งเสริมให้มีพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย
3. จัดให้มีการวิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
4. จัดทำมาตรฐานข้อมูลและมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดการศึกษาของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและสถานศึกษานำร่องเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย
5. รวบรวมข้อมูล ศึกษา และวิเคราะห์แนวทางการจัดการศึกษาของสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย
6. กำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
7. จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
8. ปฏิบัติงานอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่บัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน หรือตามที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมาย

เพื่อให้การเตรียมการจัดตั้งสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ใน สพฐ. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในเชิงนโยบาย สพฐ. โดยกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร (กพร.) จึงแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาใน สพฐ. ตามร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... มาตรา 18 และเชิญคณะกรรมการดังกล่าวร่วมประชุมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 13.30-16.30 น. ณ ห้องประชุม สพฐ.2 อาคาร สพฐ.5 ชั้น 9

รายชื่อคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาใน สพฐ. ตามร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... มาตรา 18 มี ดร.อัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธาน และมีองค์ประกอบของคณะกรรมการ ดังนี้






วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... ฉบับ สนช. ส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย


ตามที่ คณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2562 เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2562 ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... แล้วลงมติเห็นสมควรประกาศใช้เป็นกฎหมาย

เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติจึงยืนยันมติสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พร้อมด้วยร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป 

ร่าง พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... ดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
https://goo.gl/bNJVEN
















Written by: พิทักษ์ โสตถยาคม 

สพฐ. เชิญ 6 ทีมพื้นที่ ประชุมเตรียมการก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา


ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 6 พื้นที่ คือ ระยอง ศรีสะเกษ สตูล เชียงใหม่ กาญจนบุรี และจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาสป เป็นการนำร่องพัฒนานวัตกรรม/รูปแบบการบริหารจัดการการศึกษาแนวใหม่ เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา  ควบคู่กับกระบวนการร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... นั้น ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการกฤษฎีกา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และอยู่ในช่วงของการทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและเตรียมการก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรมบียอนด์ สวีท กรุงเทพมหานคร 


สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เชิญคณะทำงานหลัก (core team) ของแต่ละพื้นที่มาร่วมประชุม ซึ่งคณะทำงานดังกล่าว ได้แก่ ผู้แทนสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้แทนภาคีเพื่อการศึกษาไทย (Thailand Education Partnership: TEP) และผู้นำเครือข่ายในพื้นที่ที่ร่วมขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแต่ละพื้นที่ พร้อมทีมกฎหมายวิเคราะห์ข้อเสนอเพื่อเพิ่มความคล่องตัวของหน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษานำร่อง รวมทั้งทีมวางแผนและระบบการสื่อสาร/เผยแพร่ผลการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ดังคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและเตรียมการก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ... 

กำหนดการประชุม ดังนี้

Written by: พิทักษ์ โสตถยาคม

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ...

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติในวาระที่ 3 เห็นสมควรประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 162 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 3 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562


สำหรับรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังนี้ http://dl.parliament.go.th/handle/lirt/539397