สพฐ. ร่วมขับเคลื่อนงานบูรณาการของ ศธ. เชื่อมโยงพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จ.สตูล

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบ ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สพฐ. ร่วมประชุมการขับเคลื่อนการบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค (ภาคใต้) ของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ 2562 จัดโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัด ผู้บริหารองค์กรหลัก คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในภาคใต้ ผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำหลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานกับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ และผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล

ดร.อโณทัย ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมา เป้าหมาย และแนวทางการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ต่อที่ประชุม สาระสำคัญมีดังนี้

"พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา" นำเสนอมาจากภาคีเพื่อการศึกษาไทย (Thailand Education Partnership: TEP) ซึ่ง TEP เป็นการรวมกลุ่มของหน่วยงานองค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ในโรงเรียนและพื้นที่ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง และมีเจตจำนงจะร่วมมือรวมพลังในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อสร้างคุณภาพการศึกษา เน้นปฏิรูปการศึกษาเชิงพื้นที่ และเตรียมคนไทยให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์ Thailand 4.0 รวมทั้งเตรียมเด็กเยาวชนไทยให้มีทักษะศตวรรษที่ 21

กระทรวงศึกษาธิการรับข้อเสนอจาก TEP ผ่านคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา มาขับเคลื่อนดำเนินการ และรับนโยบายของ Superboard มีนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 และที่ประชุมองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 11 กันยายน 2561 ได้ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาครบทั้ง 6 ภาค ใน 6 พื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดศรีสะเกษ) ภาคกลาง (จังหวัดกาญจนบุรี) ภาคตะวันออก (จังหวัดระยอง) ภาคใต้ (จังหวัดสตูล) ภาคใต้ชายแดน (จังหวัดชายแดนภาคใต้-ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) รวมทั้งทยอยแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแต่ละพื้นที่ ซึ่งมาจากความต้องการของพื้นที่เป็นหลัก

กระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) เป็นประธานกรรมการ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานกรรมการ และมีเลขาธิการ กพฐ. เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา เพิ่มอิสระและความคล่องตัวในการบริหารจัดการศึกษาในพื้นที่เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน และสร้างกลไกความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกันของหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อคุณภาพผู้เรียนตอบโจทย์พื้นที่เป็นสำคัญ ซึ่งนวัตกรรมการศึกษามี 2 มิติ คือ 1) นวัตกรรมเชิงนโยบาย เป็นการปรับการบริหารจัดการด้านวิชาการ บุคคล งบประมาณ และบริหารทั่วไป และ 2) นวัตกรรมการเรียนการสอน/ การบริหารจัดการสถานศึกษา โดย ดร.อโณทัย ได้เน้นย้ำว่า การดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ควรให้ความสำคัญกับนวัตกรรมการเรียนการสอน นวัตกรรมการบริหารจัดการ ควบคู่นวัตกรรมเชิงนโยบาย จึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาลงถึงผู้เรียนอย่างแท้จริง ผลลัพธ์จากพื้นที่นวัตกรรมการศึกษามี 3 ด้าน ได้แก่ ผู้เรียนมีทักษะศตวรรษที่ 21 ได้รับการเรียนรู้ที่มีความหมายตอบโจทย์ชีวิตในอนาคต โรงเรียนมีประสิทธิภาพสูง และเกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายและขยายผลการปฏิบัติจากฐานการวิจัย

ดร.อโณทัย ได้ย้ำว่า การดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษานี้ ไม่กระทบโครงสร้างหน่วยงานในพื้นที่ ทุกหน่วยงาน ทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพียงแต่การดำเนินงานและข้อค้นพบจากพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจะช่วยหนุนเสริมประสิทธิภาพและประสิทธิผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งในด้านการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ เพิ่มขีดความสามารถบุคลากร และการประสานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่

สำหรับพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล เป็นพื้นที่แรกที่กระทวงศึกษาธิการประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเป็นจังหวัดแรก สตูลมีความพร้อมสูงมาก มีนวัตกรรมโครงงานฐานวิจัย (Research-based Learning) ที่เป็นวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเกิดผลจริงในโรงเรียนอนุบาลสตูล มีภาคีเครือข่ายร่วมดำเนินการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง ทั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และเครือข่ายผู้ปกครอง ครู โรงเรียน กรรมการสถานศึกษา และภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ จังหวัดสตูลมีเป้าหมายการดำเนินงานในปีแรก จำนวน 10 โรงเรียน ปีที่ 2 จะขยายเป็น 50 โรงเรียน และจะเต็มพื้นที่ทุกโรงเรียนในปีที่ 3 จะเน้นหลักสูตรภูมิสังคม เน้นการบูรณาการ เน้น PLC ที่สำคัญคือ เน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างเป็นระบบ ครบวงจร เน้นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ลงมือปฏิบัติจริง เน้นจิตสาธารณะ เชื่อมโยงชุมชนสังคม แก้ไขปัญหาจริงของผู้เรียนและผู้คนในชุมชนในพื้นที่จังหวัดสตูล ที่ผ่านมาได้เห็นภาพการขับเคลื่อนการดำเนินงานของสตูลแล้ว มั่นใจได้ว่าจะเป็นแบบอย่างของจังหวัดอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา รวมทั้งจะได้บทเรียนและข้อค้นพบ เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาให้เป็นความหวังใหม่ของประเทศได้เป็นอย่างดี

ศธ.และภาคีฯ หนุน พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรม ...ปักธงก่อนสิ้นปี 2561 ทั้ง 6 พื้นที่นำร่องมีแผนขับเคลื่อนชัดเจน !

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2561 พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประธานคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ได้ให้ผู้แทนภาคีเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย หรือ Thailand Education Partnership (TEP) ได้แก่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) คุณปิยาภรณ์ มัณฑจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล คุณเพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ ผู้ประสานงาน สกว. คุณศุภณัฎฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์ นักวิจัยอาวุโส TDRI  เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวคิดและแนวทางการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยมี พลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พันเอก ดร.ขจรศักดิ์ ไทยประยูร พันเอก สุตศรัณย์ ลำเจียก คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา (สนก.) และ ดร.พิทักษ์ โสตถยาคม ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและส่งเสริมการวิจัยทางการศึกษา สนก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมประชุมด้วย

ที่ประชุมได้หารือในหลายประเด็น อาทิ

• หลักคิดและความเป็นมาของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 
• การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 
• การร่วมมือรวมพลังของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมในการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 
• ความเข้มแข็งและการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้แทนองค์กร/ภาคีในแต่ละพื้นที่
• บทบาทการมีส่วนร่วมของ TEP ในการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและสร้างความเข้มแข็งให้บุคลากรของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย 
• การบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ 
• ความเชื่อมโยงของคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ กับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน 
• การวิจัยควบคู่กับการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
• การปลดล็อกด้านต่างๆ เพื่อให้โรงเรียนในแต่ละพื้นที่มีความคล่องตัวในการมุ่งพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
• จุดเริ่มต้น (Start) การดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เริ่มในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 หรือเดือนพฤษภาคม 2562 สำหรับช่วงก่อนถึงวันเปิดเรียนดังกล่าวจะเป็นการเตรียมการ/เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน
• การจัดทำแผนงานและการกำหนดเป้าหมายความสำเร็จโดยการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจของผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่เอง 

ที่ประชุมเห็นพ้องตรงกันว่า เพื่อให้เกิดความพร้อมในการดำเนินงานของทุกพื้นที่ ควรจัดประชุมผู้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของแต่ละพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนงานพื้นที่นวัตกรรมฯ ทั้งระบบ ตลอดแนว ทำให้ทุกฝ่ายเห็นเป้าหมายและแนวทางการทำงานร่วมกัน เน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในช่วงเดือนธันวาคม 2561 ในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ทั้ง 6 พื้นที่ ดังนี้

1. วันที่   6-7   ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดระยอง
2. วันที่ 12-13 ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดชายแดนภาคใต้
3. วันที่ 14-15 ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดสตูล
4. วันที่ 19-20 ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดศรีสะเกษ
5. วันที่ 21-22 ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดเชียงใหม่
6. วันที่ 26-27 ธันวาคม 2561 ณ จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ รมช.ศธ. ได้กำหนดวันเวลาประชุมคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ครั้งที่ 2/2561 ในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เวลา 13.30 น. ณ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาแนวทางการสนับสนุนส่งเสริมพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและการพิจารณาข้อเสนอเพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการของโรงเรียนและพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

ประกาศพื้นที่นวัตกรรม 6 ภูมิภาค

ตามที่ สภาการศึกษามีมติเห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พิจารณารับเป็นโครงการตามนโยบายและดำเนินการ ประกอบกับมติคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 และมติที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 ให้จัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 6 พื้นที่ ใน 6 ภูมิภาค สพฐ. จึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการให้พื้นที่จังหวัดสตูล ศรีสะเกษ ระยอง เชียงใหม่ กาญจนบุรี และจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

ด้วย กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษาของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 54 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 จึงจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาขึ้น เพื่อให้เกิดรูปแบบการบริหารจัดการการศึกษารูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการทดลองกระจายอำนาจการบริหารจัดการจากส่วนกลางไปยังจังหวัด โดยมีระบบและกลไกการบริหารจัดการพื้นที่ด้วยตนเอง ส่งเสริมให้สถานศึกษามีอิสระในด้านวิชาการ การบริหารบุคลากร และการบริหารทั่วไป ด้วยความรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษา นำไปสู่การพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน บริบทพื้นที่ และความต้องการของประเทศ โดยมีเป้าหมาย 4 ประการ คือ

1. เพิ่มผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ของนักเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เจตคติ ทักษะสำคัญ และความรู้ รวมทั้งขยายผลสู่นักเรียนทั่วประเทศในอนาคต   

2. ลดความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษา โดยยกระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียนกลุ่มอ่อน   และยากจน    

3. พัฒนานวัตกรรมการบริหารการศึกษาระดับจังหวัด ขยายผลนวัตกรรมการศึกษาทั้งเชิงนโยบาย การจัดการเรียนรู้ และการบริหารในสถานศึกษาไปสู่นโยบายการศึกษาในระดับชาติและพื้นที่อื่น อาทิ ด้านหลักสูตร ตำรา สื่อการเรียนรู้ การทดสอบ การประเมินสถานศึกษา บุคลากร การเงิน รวมทั้งความสอดคล้องของการบริหารงานด้านต่างๆ   

4. ร่วมมือกับภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน และประชาสังคมในการจัดการศึกษา   การพัฒนา และการขยายผลนวัตกรรมการศึกษา

ทั้งนี้ พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาสามารถพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการการศึกษารูปแบบใหม่ ภายใต้กลไกการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของจังหวัด โดยการกำกับทิศทางการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการขับเคลื่อนการจัดตั้งและบริหารจัดการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยประสานความร่วมมือ  ของหน่วยงาน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง และเสนอแนะให้เกิดการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี

ประกาศจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้

แต่งตั้งบอร์ดพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. 1363/2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. 978/2561 สั่ง ณ วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2561 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา นั้น เนื่องจาก มติคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 และมติที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 ให้ดำเนินการนำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้ครอบคลุมทั้ง 6 ภาค ประกอบกับมติคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ให้เพิ่มผู้แทนภาคีในจังหวัดสตูลเป็นกรรมการ ในคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจึงยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่ สพฐ. 978/2561 สั่ง ณ วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561 และมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 

มีอำนาจหน้าที่ 1) ขับเคลื่อนการจัดตั้งและบริหารจัดการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 2) ส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยประสานความร่วมมือของหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง 3) เสนอแนะให้เกิดการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล